สำนักวิชาการจัดการ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์,WalailakUniversity, SM,Schoolofmanagement,เด็กการจัดการ,การจัดการวลัยลักษณ์ , การจัดการมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์, สำนักวิชาการจัดการ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์,WalailakUniversity, SM,Schoolofmanagement,แหล่งปัญญาด้านการจัดการ มุ่งสู่ความเป็นเลิศ, สำนักวิชาการจัดการ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์,WalailakUniversity, SM,Schoolofmanagement,ผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพ ให้เป็นคนดีและคนเก่ง,มีความรู่และความเชี่ยวชาญในการปฎิบัติ,

อาจารย์บริหารธุรกิจนำเสนอผลงานวิจัยเด่นในการประชุม “อนาคตประเทศไทย โจทย์วิจัยเพื่อประชาชน”

           ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ศิวฤทธิ์ พงศกรรังศิลป์ และอาจารย์สุชาติ ฉันสำราญ อาจารย์ประจำหลักสูตรบริหารธุรกิจ และศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการธุรกิจท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ สำนักวิชาการจัดการ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ได้รับเชิญจากสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) นำผลงานวิจัยร่วมนำเสนอในการประชุม “อนาคตประเทศไทย โจทย์วิจัยเพื่อประชาชน” นำเสนอโจทย์วิจัยสำหรับขอทุนวิจัยงบประมาณแผ่นดิน เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2561 ณ ห้องประชุมวายุภักษ์ โรงแรมเซ็นทรา ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร โดยมีนักวิจัยจำนวนมากจากทั่วทุกภูมิภาคของทั่วประเทศไทยมาร่วมงาน

            โดยทางสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ร่วมจัดงานดังกล่าว เพื่อนำเสนอโจทย์วิจัยสำหรับขอทุนวิจัยงบประมาณแผ่นดินในทุก ๆ ด้าน โดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ได้มีการคัดเลือกผลงานของศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการธุรกิจท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ 2 ผลงานไปนำเสนอร่วมกับอีก 6 ผลงานวิจัยทางด้านการท่องเที่ยวจากทุกภูมิภาคของประเทศไทย ได้แก่

  1. 1. แผนงานวิจัย แนวทางการพัฒนาพุน้ำร้อนเค็มคลองท่อม จังหวัดกระบี่อย่างยั่งยืน โดยมีคณะนักวิจัยดังนี้

ผู้อำนวยการแผนงานวิจัย    ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศิวฤทธิ์ พงศกรรังศิลป์

หัวหน้าโครงการย่อย 1       ดร.กำแหง วัฒนเสน

หัวหน้าโครงการย่อย 2       ดร.สมจินตนา คุ้มภัย

หัวหน้าโครงการย่อย 3       ดร.พิมพ์ลภัส พงศกรรังศิลป์

            ซึ่งแผนงานวิจัยนี้ได้รับรางวัลผลงานวิจัยเด่นด้านนโยบาย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ปี พ.ศ. 2558 โดยพุน้ำร้อนเค็มคลองท่อม จังหวัดกระบี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีคุณค่า เนื่องจากเป็นแหล่งน้ำพุร้อนเค็มที่มีเพียงไม่กี่แห่งในโลก แต่ได้รับการพัฒนาแบบไร้ทิศทางทำให้สภาพแวดล้อมเสื่อมโทรม ส่งผลกระทบต่อผู้มาใช้บริการเนื่องจากไม่มีร่มเงา ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อชีวิตของผู้มาใช้บริการ ทางองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยน้ำขาว และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานกระบี่จึงได้ร่วมกับนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ในการดำเนินงานวิจัยด้วยการนำองค์ความรู้ด้านธรณีฟิสิกส์จากนักวิจัยของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์มาประยุกต์ใช้กับองค์ความรู้ด้านบริหารธุรกิจ และการท่องเที่ยว ในการพัฒนาแนวทางการบริหารจัดการพุน้ำร้อนเค็มคลองท่อมอย่างยั่งยืน รวมถึงแนวทางในการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมของพื้นที่ โดยผลงานวิจัยนี้มีความโดดเด่นคือ

– สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์ฯ) ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยนำผลการวิจัยในการนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี และนำไปสู่การอนุมัติจัดตั้งเมืองสปาต้นแบบอำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่

– องค์การบริหารส่วนตำบลห้วยน้ำขาวนำแผนการพัฒนาพุน้ำร้อนเค็มคลองท่อมไปขอรับงบประมาณในการปรับปรุงพื้นที่ตามแนวทางการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และได้รบงบประมาณจากจังหวัดกระบี่ 15 ล้านบาท

– ชุมชนท้องถิ่นมีการพัฒนากิจกรรมการท่องเที่ยวใหม่เพื่อรองรับการท่องเที่ยว ได้แก่ การล่องเรือ การเก็บหอยตลับ การดักกุ้งเคย เป็นต้น

– ผลการวิจัยนำไปสู่การพัฒนาและปรับปรุงสภาพภูมิทัศน์ โดยปลูกต้นฝาดดอกแดง ซึ่งเป็นไม้ท้องถิ่นที่สวยงาม และสามารถเติบโตได้ในพื้นที่ เป็นร่มเงาให้กับนักท่องเที่ยว

  1. 2. แผนงานวิจัย การพัฒนาการท่องเที่ยวสีเขียวในจังหวัดกระบี่ โดยมีคณะนักวิจัยดังนี้

ผู้อำนวยการแผนงานวิจัย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศิวฤทธิ์ พงศกรรังศิลป์

หัวหน้าโครงการย่อย ดร.พิมพ์ลภัส พงศกรรังศิลป์

หัวหน้าโครงการย่อย 2 อาจารย์สุชาติ ฉันสำราญ

หัวหน้าโครงการย่อย 3 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศิวฤทธิ์ พงศกรรังศิลป์

 

งานวิจัยนี้เริ่มต้นจากผู้ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการท่องเที่ยวในจังหวัดกระบี่ต้องการพัฒนาการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมตามปฏิญญากระบี่ ดังนั้นงานวิจัยนี้จึงมุ่งเน้นในการกำหนดแนวทางการพัฒนาเมืองต้นแบบทางด้านการท่องเที่ยวสีเขียว การพัฒนาธุรกิจสีเขียว รวมไปถึงการสร้างแบรนด์การท่องเที่ยวสีเขียว โดยมุ่งเน้นในการพัฒนาให้จังหวัดกระบี่เป็นเมืองท่องเที่ยวสีเขียว ที่ดำเนินการอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคม มีการกระจายรายได้สู่ชุมชนท้องถิ่น รับผิดชอบในการป้องกันและแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการดำเนินงานของธุรกิจร่วมกัน และสามารถนำไปดำเนินการตลาดเชิงรุกในการขยายฐานนักท่องเที่ยวคุณภาพต่อไป  โดยผลงานวิจัยนี้มีการนำไปใช้ประโยชน์ ดังนี้

              – ชุมชนท่องเที่ยวทุ่งหยีเพ็งได้ประยุกต์แนวทางการพัฒนาเมืองต้นแบบด้านการท่องเที่ยวสีเขียวไปขับเคลื่อนการท่องเที่ยวโดยชุมชน

              – สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหมู่เกาะลันตานำแนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวสีเขียวไปขับเคลื่อนแผนการพัฒนาเมืองลันตาสีเขียว (Lanta Go Green)

              – โรงแรมเชียงคาน ริเวอร์เมาเท่น รีสอร์ท อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย และโรงแรมเลยวิลเลจ ประยุกต์ผลงานวิจัยไปดำเนินการพัฒนาโรงแรมสีเขียว และได้รับรางวัลเหรียญเงินและเหรียญทองแดง ตามลำดับ จากโครงการโรงแรมสีเขียว กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมในการดำเนินการปีแรก

ทั้งนี้ การดำเนินงานวิจัยของอาจารย์ในหลักสูตรบริหารธุรกิจได้รับทุนสนับสนุนจากแหล่งทุนวิจัยภายนอกมหาวิทยาลัย และมีการนำนักศึกษาในหลักสูตรบริหารธุรกิจร่วมลงพื้นที่เรียนรู้การทำงานจากสถานการณ์จริง เพื่อพัฒนาบัณฑิตที่มีความรู้ความสามารถ และสามารถประยุกต์ใช้ในการทำงานจริงได้

ข้อมูลติดต่อเพื่อขอรับถ่ายทอดเทคโนโลยี

ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการธุรกิจท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ สำนักวิชาการจัดการ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์  โทร. 075 672251 อีเมล์ psiwarit@gmail.com

Facebook Comments